ภาษาถิ่น “สุโขทัย” มิได้มีเพียงสำเนียงเป็นเอกลักษณ์เท่านั้น หากแต่มีคำศัพท์เฉพาะเป็นจำนวนมาก คำศัพท์เหล่านี้ หลายคำเป็นคำศัพท์ที่ใช้ปรากฏในศิลาจารึก หลายคำตรงกับ ภาษาถิ่นอื่น ๆ การศึกษาภาษาถิ่นสุโขทัยจึงช่วยเสริม ให้ผู้สนใจเกี่ยวกับภาษาไท(ย)ได้เข้าใจภาษาไทย ได้ชัดเจนยิ่งขึ้น
หนังสือเล่มนี้ได้นำข้อมูลจากรายงานวิจัยมาอธิบายขยายความ เกี่ยวกับภาษาถิ่นสุโขทัยให้กระจ่างชัดยิ่งขึ้น โดยแบ่งเป็น ๒ ภาค โดยภาคที่ 1 ภาษาถิ่นสุโขทัย มีเนื้อหาเกี่ยวกับลักษณะเบื้องต้นของภาษาถิ่นสุโขทัย แบ่งเป็น 7 บท คือ บทที่ 1 ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับภาษาถิ่นสุโขทัย บทที่ 2 ระบบเสียงของภาษาถิ่นสุโขทัย บทที่ 3 โครงสร้างพยางค์ของภาษาถิ่นสุโขทัย บทที่ 4 หมวดหมู่คำของภาษาถิ่นสุโขทัย บทที่ 5 การสร้างคำของภาษาถิ่นสุโขทัย บทที่ 6 อัตลักษณ์คำศัพท์ภาษาถิ่นสุโขทัย และ บทที่ 7 สำนวนภาษาถิ่นสุโขทัย ภาคที่ 2 พจนานุกรมภาษาถิ่นสุโขทัย แบ่งหมวดหมู่ตามอักษรทั้งหมด 28 หมวดหมู่อักษร คือ ก ข ค ง จ ฉ ช ซ ด ต ถ ท น บ ป ผ ฝ พ ฟ ม ย ร ล ว ส ห อ และ ฮ รวมทั้งสิ้น 655 คำ

1. ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับภาษาถิ่นสุโขทัย
จังหวัดสุโขทัยเป็นที่ตั้งของอาณาจักรชาวไทโบราณที่เก่าแก่ที่สุดเท่าที่มีบันทึกเป็นลายลักษณ์อักษรร่วมกับยุคสมัย คือ “อาณาจักรสุโขทัย” แม้ว่าไม่อาจจะกล่าวได้ว่าเป็นอาณาจักรแรกของคนไทหรือไทยตามที่เชื่อมาแต่เดิมก็ตาม เนื่องจากก่อนหน้านั้นคนไทได้มีการอพยพโยกย้ายถิ่นฐานมาเรื่อย ๆ ดังปรากฏร่องรอยการอพยพโยกย้ายถิ่นฐานในตำนานท้องถิ่นต่าง ๆ เช่น ตำนานขุนบรมที่แสดงให้เห็นถึงการอพยพของกลุ่มชาติพันธุ์ไทจากดินแดนจีนตอนใต้หรือเวียดนามตอนเหนือ (เมืองแถน) มายังภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แล้วแยกย้ายไปสร้างบ้านเมืองยังสถานที่ต่าง ๆ เป็นเมืองยุคโบราณ 7 เมือง คือ เมืองชวา เมืองเชียงขวาง เมืองอยุธยา เมืองเชียงใหม่ เมืองสิบสองพันนา เมืองหงสาวดี และเมืองจุลณี เป็นต้น จากตำนานดังกล่าวข้างต้นสอดคล้องกับการศึกษาทางด้านภาษา ของผู้คนชาติพันธุ์ไทตามแนวคิดที่ว่าคนไทคงจะอพยพจากจีนตอนใต้-เวียดนามตอนเหนือลงมาแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ปัจจุบัน (ไทยและลาว) และบางกลุ่มได้อพยพไปทางตะวันตกแถบรัฐฉานในประเทศเมียนมาและรัฐอัสสัมในประเทศอินเดีย อย่างไรก็ตามการศึกษาในปัจจุบันสนับสนุนความคิดดังกล่าว โดยชาติพันธุ์ไทได้อาศัยร่วมกับชนชาติพันธุ์อื่น ๆ ในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

2. ระบบเสียงของภาษาถิ่นสุโขทัย
การศึกษาเสียงและหน่วยเสียงในภาษาถิ่นสุโขทัยผู้เขียนศึกษาตามกรอบแนวคิดของการศึกษาเสียงและหน่วยเสียงในภาษาไทย โดยแบ่งหน่วยเสียงในภาษาไทยออกเป็น 3 ประเภท คือ หน่วยเสียงสระ หน่วยเสียงพยัญชนะ และหน่วยเสียงวรรณยุกต์ โดยผู้เขียนจะจำแนกตามลักษณะของหน่วยเสียงและฐานกรณ์ที่ก่อให้เกิดเสียง
3. โครงสร้างพยางค์ของภาษาถิ่นสุโขทัย
โครงสร้างของพยางค์ในภาษาถิ่นสุโขทัยผู้เขียนศึกษาตามกรอบแนวคิดของกาญจนา นาคสกุล และคณะ (2554, หน้า 37-40) และพจนี ศิริอักษรสาสน์ (2545, หน้า 76-81) ที่แบ่งโครงสร้างพยางค์ในภาษาไทยออกเป็น 5 ประเภทเช่นเดียวกัน คือ C(C)VVT1-5 C(C)VNT1-5 C(C)VST2,4 C(C)VVNT1-5 และ C(C)VVST2,3 และนอกจากนี้ผู้เขียนยังได้ใช้กรอบแนวคิดของอรวรรณ บุญยฤทธิ์ (2559, หน้า 25-26) ที่ได้แบ่งโครงสร้างพยางค์ในภาษาไทย ออกเป็น 5 ประเภทเช่นเดียวกันแต่ต่างที่เสียงวรรณยุกต์ ในโครงสร้างแบบ C(C)VVST คือ C(C)VVT1-5 C(C)VNT1-5 C(C)VST2,4 C(C)VVNT1-5 และ C(C)VVST2,3,4 โดยผู้เขียนจึงนำการแบ่งโครงสร้างพยางค์จากนักวิชาการข้างต้นมาเป็นกรอบเบื้องต้นในการวิเคราะห์โครงสร้างของพยางค์ภาษาถิ่นสุโขทัย
4. หมวดหมู่คำของภาษาถิ่นสุโขทัย
หมวดหมู่คำหรือชนิดของคำ (Part of speech) ผู้เขียนจำแนกประเภทของคำตามหน้าที่ทางไวยากรณ์หรือตำแหน่งที่ปรากฏ ดังนั้นหากคำใดมีหน้าที่ ทางไวยากรณ์หลายหน้าที่ผู้เขียนจะแยกนำเสนอเป็นคนละคำ ซึ่งจากการศึกษาคำศัพท์ที่ได้รวบรวมจากการซักข้อมูลผู้บอกภาษาสามารถจำแนกชนิดของคำ ในภาษาถิ่นสุโขทัยได้ 6 ชนิด คือ กริยา นาม บุรพบท วิเศษณ์ สันธาน และอุทาน

5. การสร้างคำของภาษาถิ่นสุโขทัย
ภาษาถิ่นสุโขทัยมีลักษณะการสร้างคำศัพท์แบ่งออกเป็น 4 วิธี คือ การประสมคำ การซ้ำคำ การซ้อนคำ และการยืมคำ ดังนี้
การประสมคำ การประสมคำ (compound word) หมายถึง การนำคำตั้งแต่ 2 คำ ขึ้นไปมาประสมกันแล้วกลายเป็นคำใหม่ มีความหมายใหม่ขึ้นมาอีกคำหนึ่ง (ราชบัณฑิตยสถาน, 2556, หน้า 259) ซึ่งคำที่นำมาประสมกันแต่ละคำสามารถปรากฏโดยลำพังได้ (สำนักงานราชบัณฑิตยสภา, 2560, หน้า 99) ในการศึกษาการสร้างคำแบบการประสมคำในภาษาถิ่นสุโขทัยผู้เขียนศึกษาเฉพาะคำประสมสองหน่วยและนำเสนอใน 2 ประเด็น คือ ส่วนประกอบของคำประสมและลักษณะความหมายของคำประสม
การซ้ำคำ (Reduplication) หมายถึง การนำหน่วยคำมาซ้ำบางส่วนหรือทั้งหมด โดยทำให้เกิดเป็นคำที่มีความหมายแสดงความเป็นพหูพจน์แบบ ไม่เจาะจง (สำนักงานราชบัณฑิตยสภา, 2560, หน้า 376) โดยในการเขียน คำซ้ำจะใช้เครื่องหมายไม้ยมก (ๆ) แทนคำที่ซ้ำ (วัลยา ช้างขวัญยืน และคณะ, 2553, หน้า 62) ในการศึกษาการสร้างคำแบบการซ้ำคำในภาษาถิ่นสุโขทัยพบว่าเป็นคำซ้ำที่ไม่มีการเปลี่ยนแปลงเสียงโดยจะออกเสียงเช่นเดียวกันทั้งหมด
การซ้อนคำ (Semantic doublet) หมายถึง การนำหน่วยคำอิสระที่มีความหมายคล้ายคลึงกัน ใกล้เคียงกัน เกี่ยวข้องกัน หรือตรงกันข้ามมาประกอบกัน (สำนักงานราชบัณฑิตยสภา, 2560, หน้า 388) ในการศึกษาการสร้างคำแบบการซ้อนคำในภาษาถิ่นสุโขทัยพบว่าเป็นคำซ้อนที่มีความหมายไปในทิศทางเดียวกัน
การยืมคำ การยืมคำ (Loan word) หมายถึง การนำคำศัพท์ที่ไม่มีอยู่เดิม ในภาษามาใช้ในภาษา (สำนักงานราชบัณฑิตยสภา, 2560, หน้า 266) จาก การศึกษาการสร้างคำแบบการยืมคำในภาษาถิ่นสุโขทัยพบว่ามีคำยืมจาก 4 ภาษา ได้แก่ ภาษาเขมร ภาษาจีน ภาษาบาลี-สันสกฤต และภาษาอังกฤษ
6. อัตลักษณ์คำศัพท์ภาษาถิ่นสุโขทัย
การศึกษาคำศัพท์ภาษาถิ่นสุโขทัยโดยการซักข้อมูลผู้บอกภาษา ในเขตพื้นที่อำเภอกงไกรลาศ จังหวัดสุโขทัย เพื่อเก็บรวบรวมคำศัพท์ เมื่อได้คำศัพท์แล้วนอกจากจะวิเคราะห์ระบบเสียง โครงสร้างพยางค์ และคำในภาษาถิ่นสุโขทัยแล้ว ผู้เขียนได้นำคำศัพท์ที่ได้มาวิเคราะห์อัตลักษณ์คำศัพท์ภาษาถิ่นสุโขทัย โดยลักษณะของคำศัพท์ภาษาถิ่นสุโขทัยสามารถแบ่งออกเป็น 4 ลักษณะ คือ คำที่ตรงกับภาษาไทยมาตรฐาน คำที่คล้ายกับภาษาไทยมาตรฐาน คำที่คล้ายกับภาษาไทถิ่นอื่น และคำศัพท์เฉพาะถิ่นสุโขทัย

เอกสารอ้างอิง
กาญจนา นาคสกุล และคณะ. (2554). บรรทัดฐานภาษาไทย เล่ม 1 : ระบบเสียง อักษรไทย การอ่านคำและการเขียนสะกดคำ (พิมพ์ครั้งที่ 2). สถาบันภาษาไทย สำนักวิชาการและมาตรฐานการศึกษา สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้น พื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ.
พจนี ศิริอักษรสาสน์. (2545). ภาษาถิ่นของไทย. สำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยรามคำแหง.
วัลยา ช้างขวัญยืน และคณะ. (2553). บรรทัดฐานภาษาไทย เล่ม 2 : คำ การสร้างคำและการยืมคำ (พิมพ์ครั้งที่ 2). สกสค. ลาดพร้าว.
อรวรรณ บุญยฤทธิ์. (2559). เอกสารคำสอนรายวิชา 335 501 ภาษาศาสตร์เบื้องต้น (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2557). มหาวิทยาลัยศิลปากร.
สำนักงานราชบัณฑิตยสภา. (2560). พจนานุกรมศัพท์ภาษาศาสตร์ (ภาษาศาสตร์ทั่วไป) ฉบับราชบัณฑิตยสภา. สำนักงานราชบัณฑิตยสภา.