หนูทดลองคือใคร? หนังสือ “การวิจัยในหนูเมาส์ : จากความรู้พื้นฐานสู่ความเชี่ยวชาญด้านศัลยกรรม” (Mouse Research Mastery: From Fundamentals to Surgical Expertise) จะเป็นคู่มือการเรียนรู้ และการทำงานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับการผ่าตัดในหนูเมาส์ ซึ่งเป็นสัตว์สำคัญในงานวิจัยหลากหลายสาขา เนื้อหาประกอบด้วยการสังเคราะห์องค์ความรู้จากงานวิจัยและประสบการณ์ของผู้เขียนครอบคลุมตั้งแต่หลักการออกแบบการทดลองที่เกี่ยวข้องกับการผ่าตัดในหนูเมาส์ การเลือกชนิดหนูเมาส์ การปฏิบัติกับหนูเมาส์ในงานวิจัย การเก็บตัวอย่างของเหลวในหนูเมาส์มีชีวิต วิสัญญีวิทยาเบื้องตัน หลักศัลยกรรม จุดยุติการทดลอง การการุณยฆาต และการเก็บตัวอย่างหลังการการุณยฆาต
การเข้าใจรายละเอียดทุกขั้นตอนของการใช้ยาสลบและการผ่าตัดในหนูเมาส์เป็น สิ่งสำคัญอย่างยิ่ง ทั้งต่อสวัสดิภาพของสัตว์และผู้วิจัย โดยองค์ความรู้ในหนังสือเล่มนี้ครอบคลุม ตั้งแต่การออกแบบงานวิจัย กายวิภาคศาสตร์ สรีรวิทยา กลไกความเจ็บปวด วิสัญญีวิทยาภาวะปลอดเชื้อ การเลือกใช้อุปกรณ์ที่เหมาะสม การฟื้นจากยาสลบ และการดูแลหลังการฟื้น หนังสือเล่มนี้ยังให้ภาพรวมของกระบวนการทำวิจัยที่เกี่ยวข้องกับการผ่าตัดในสัตว์ตั้งแต่ขั้นตอนก่อนที่สัตว์จะเกิดหรือย้ายเข้ามาในสถานที่เลี้ยง จนถึงขั้นตอนหลังการการุณยฆาตเพื่อสนับสนุนการสร้างผลงานวิจัยที่มีคุณภาพ น่าเชื่อถือ และส่งเสริมสวัสดิภาพของหนูเมาส์ในงานวิจัย

1. หลักการออกแบบการทดลองที่เกี่ยวข้องกับการทำศัลยกรรมในหนูเมาส์และการเลือกชนิดหนูเมาส์สำหรับงานวิจัยต่าง ๆ
แม้ว่าการใช้สัตว์เพื่อการวิจัยนั้นดูเหมือนว่าจะมีแนวโน้มลดลง ซึ่งเกิดจากปัจจัยหลายอย่าง เช่น การคุ้มครองสวัสดิภาพสัตว์ เทคโนโลยีทดแทนการใช้สัตว์ และการประยุกต์ใช้เครื่องมือต่าง ๆ เพื่อให้การวิจัยมีความน่าเชื่อถือมากขึ้นโดยใช้สัตว์ลดลง และแม้ว่าการใช้สัตว์ทดลองในการทดสอบเครื่องสำอาง สารเคมีในชีวิตประจำวัน และยาสลบ จะถูกระงับทำให้สัดส่วนของการใช้สัตว์ทดลองดูเหมือนว่าจะมีแนวโน้มโดยภาพรวมลดลง แต่การใช้สัตว์เพื่องานวิจัยอื่น ๆ นั้นก็ยังมีจำนวนมาก
ในสหราชอาณาจักรจำนวนสัตว์ที่ใช้ในการวิจัยเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี ค.ศ. 1939 ถึงกลางทศวรรษ 1970 และถึงจุดสูงสุดที่ประมาณ 5.5 ล้านโครงการวิจัย จากนั้นตัวเลขก็ลดลงอย่างต่อเนื่องจนถึงราวปี ค.ศ. 2000 อยู่ที่ 2.6 ล้านโครงการวิจัย และหลังจากนั้นตัวเลขก็เพิ่มขึ้นเป็นประมาณ 4 ล้านโครงการวิจัยก่อนจะลดระดับลงอย่างต่อเนื่อง แต่กระบวนการที่เพิ่มขึ้นสวนทางกับจำนวนโครงการวิจัยคือ การใช้สัตว์ที่มีการดัดแปลงพันธุกรรม และในปี ค.ศ. 2020 จำนวนโครงการวิจัยนั้นมีจำนวนต่ำที่สุดนับตั้งแต่ปี ค.ศ. 2004 อันเนื่องมาจากการระบาดของโรค COVID-19 ซึ่งทำให้สถาบันหลายแห่งชะลอหรือหยุดการศึกษาวิจัยโดยใช้สัตว์ เพื่อจุดประสงค์อื่นที่ไม่เกี่ยวข้องกับโรค COVID-19 อย่างไรก็ตามสถิติการใช้สัตว์ เพื่อการวิจัยในสหราชอาณาจักรในปี ค.ศ. 2023 นั้นมีจำนวน 2.68 ล้านโครงการ โดยใช้หนูเมาส์ในการวิจัยประมาณ 1.93 ล้านโครงการ (71.82%) ตามมาด้วยปลา 13.75% นก 4.31% และหนูแรท 5.53% และในโครงการวิจัยเหล่านั้น มีมากถึง 18.5% อยู่ในระดับความเจ็บปวดปานกลางถึงสูง ซึ่งเกี่ยวข้องกับการทำศัลยกรรม (Research, 2023) การทำศัลยกรรมในสัตว์ทดลองนั้นจึงเกี่ยวข้องโดยตรงกับสวัสดิภาพสัตว์ และโดยเฉพาะอย่างยิ่งผลของงานวิจัยที่เกิดขึ้น โดยความเครียดและความเจ็บปวดนั้นส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทั้งทางสรีรวิทยา (Barrot, 2012) ซึ่งเป็นตัวแปรที่สำคัญในการกำหนดผลงานวิจัย
2. การปฏิบัติกับหนูเมาส์เพื่อการวิจัย

สัตว์ทดลองจำเป็นต้องมีการสัมผัสกับมนุษย์อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ตลอดช่วงชีวิตระหว่างการเลี้ยงและการทำการทดลอง ไม่ว่าจะเป็นการสัมผัสจากผู้วิจัยหรือผู้ดูแล การจัดการสัตว์อย่างเหมาะสมและมีทักษะจึงเป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้สัตว์ยอมรับและมีความร่วมมือในการทำการทดลองอย่างมีประสิทธิภาพ หากการจัดการเป็นสิ่งที่ทำให้สัตว์เกิดความเครียด สัตว์อาจแสดงอาการวิตกกังวลและตอบสนองต่อความเครียดเกินปกติเมื่อถูกสัมผัส สิ่งนี้ไม่เพียงแต่ส่งผลเสียต่อสวัสดิภาพของสัตว์ แต่ยังเพิ่มความยากลำบากในการดูแล เพราะสัตว์อาจหลีกเลี่ยงหรือแสดงพฤติกรรมก้าวร้าวเพื่อป้องกันตัว การจัดการที่ไม่เหมาะสมยังอาจส่งผลให้เกิดความเครียดที่ทำให้ผลการทดลองมีความผันแปร และเป็นปัจจัยที่ทำให้ผลลัพธ์ไม่เป็นไปตามที่นักวิจัยคาดการณ์ ดังนั้นการฝึกอบรมที่ดีในการจัดการสัตว์อย่างระมัดระวังจึงเป็นประโยชน์ทั้งต่อสัตว์ ผู้ดูแล และนักวิจัย อีกทั้งยังช่วยให้ข้อมูลจากการทดลองมีความน่าเชื่อถือมากขึ้น
3. การเก็บตัวอย่างของเหลวต่าง ๆ ในหนูเมาส์มีชีวิต
ตัวอย่างของเหลว เช่น เลือด น้ำลาย ปัสสาวะ เป็นสิ่งสำคัญในการบอกถึงการเปลี่ยนแปลงทางสรีรวิทยาของร่างกาย ซึ่งแปรผันกับการทดลองต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น ในงานวิจัยนอกจากตัวอย่างของเหลวเป็นตัวอย่างหลักที่ใช้ในการแปรผลการทดลอง อย่างไรก็ตามในการทดลองที่ใช้ตัวอย่างอื่น ๆ เช่น เนื้อเยื่อ หรือการประเมินพฤติกรรม ตัวอย่างของเหลวก็เป็นข้อมูลสำรองที่มีค่ากับการแปรผลการทดลองเช่นกัน โดยเฉพาะกรณีผลการทดลองหลักไม่เป็นไปตามสมมติฐาน
4. วิสัญญีวิทยาพื้นฐานในหนูเมาส์
ภาวะการสลบในหนูเมาส์นั้นหมายถึง การทำให้หนูเมาส์สูญเสียความรู้สึกทั้งร่างกายหรือบางส่วนต่อความเจ็บปวดหรือสัมผัสอื่น ๆ อย่างไรก็ตามมักเป็นที่เข้าใจผิดว่าการให้ยาสลบเพื่อให้หมูเมาส์อยู่ในภาวะสลบทั้งร่างกายนั้นจะส่งผลให้หนูเมาส์ไม่เจ็บปวด ซึ่งความเป็นจริงแล้วหนูเมาส์ที่สลบยังสามารถมีการเปลี่ยนแปลงทางสรีรวิทยาที่ตอบสนองต่อความเจ็บปวดได้ เช่น การเพิ่มขึ้นของอัตราการเต้นของหัวใจ การเพิ่มขึ้นของความดันเลือด และการเปลี่ยนแปลงของสารสื่อประสาทต่าง ๆ เพียงแต่หนูเมาส์จะไม่สามารถตอบสนองโดยการขยับร่างกายได้

การวางยาสลบในหนูเมาส์นั้น มีข้อบ่งชี้เพื่อการปฏิบัติหัตถการที่ต้องการไม่ให้เกิดการเคลื่อนไหว เช่น การถ่ายภาพรังสีซึ่งหนูเมาส์ต้องไม่ขยับร่างกายเป็นระยะเวลาหนึ่ง หรือหัตถการที่ก่อให้เกิดความเครียด หรือความเจ็บปวดต่อหนูเมาส์ ซึ่งโดยหลักการแล้วการปฏิบัติที่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อเนื้อเยื่อในระดับที่มากกว่าการให้ยาโดยการฉีด หรือการต้องจับบังคับเป็นเวลานาน นักวิจัยควรพิจารณาการให้ยาสลบแก่หนูเมาส์ นอกเหนือจากหลักสวัสดิภาพของสัตว์แล้ว ความเครียดจากการจับบังคับส่งผลให้เกิดการหายของแผลที่ช้าลงกว่าปกติถึง 30% (Padgett et al., 1998; Rojas et al., 2002) และส่งผลให้เกิดความเสี่ยงในการติดเชื้อแบคทีเรียมากกว่าปกติถึงประมาณ 3 เท่า (Rojas et al., 2002) ซึ่งเป็นผลมาจากการเพิ่มขึ้นของฮอร์โมนกลุ่มกลูโคคอร์ติคอยด์ (Glucocorticoids) เช่น ฮอร์โมนคอติซอล (Cortisol) และฮอร์โมนคอติโคสเตอโรน (Corticosterone) รวมถึงการเพิ่มขึ้นของ สารไซโคไคน์เบื้องต้น (Proinflammatory cytokines) เช่น อินเตอร์ลิวคิน หนึ่ง เบต้า (Interleukin 1 beta: IL-1β) อินเตอร์ลิวคิน หนึ่ง แอลฟา (Interleukin 1 alpha: IL-1α) อินเตอร์ลิวคิน หก (Interleukin-6: IL-6) อินเตอร์ลิวคิน แปด (Interleukin-8: IL-8) และทิวเมอร์เนโครซินแฟกเตอร์ แอลฟา (Tumour necrotic factor alpha: TNF-α) (Christian et al., 2006)
5. หลักศัลยกรรมในหนูเมาส์
กายวิภาคพื้นฐานสำหรับการทำศัลยกรรมในหนูเมาส์ (Basic anatomy for surgery in mouse) กายวิภาคมีความสำคัญยิ่งในการศัลยกรรม ความเข้าใจอย่างลึกซึ้งเกี่ยวกับกายวิภาคของหนูเมาส์ถือเป็นสิ่งสำคัญสำหรับศัลยสัตวแพทย์ในการดำเนินหัตถการอย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ โดยแยกความสำคัญของกายวิภาคในการศัลยกรรม ดังนี้ (Cassidy, 2021)

- ความแม่นยำและถูกต้อง (Precision and Accuracy)
- ความปลอดภัย (Safety)
- การวางแผนขั้นตอน (Planning)
- การลดภาวะแทรกซ้อน (Minimizing Complications)
- การปรับแต่งขั้นตอน (Customization of Procedures)
- การศึกษาและการฝึกอบรม (Education and Training)
- การสื่อสาร (Communication)
- การดูแลหลังการศัลยกรรม (Postoperative Care)
- ข้อพิจารณาด้านจริยธรรม (Ethical Considerations)
6. จุดยุติการทดลอง การการุณยฆาต และการเก็บตัวอย่างหลังการการุณยฆาต
จุดยุติการทดลอง (Experimental endpoint) สภาวะการป่วยที่ทรมานก่อนการตายถูกใช้เป็นจุดยุติการทดลอง (Experimental endpoint) เนื่องจากหลักการที่ว่าการการุณยฆาตสัตว์ป่วยที่ทรมานจะลดระยะเวลา และลดระดับความทุกข์ทรมานก่อนการตาย โดยหลักแล้วในการทดลอง “จะต้องไม่มีหนูเมาส์ตัวใดในการวิจัยตายเองโดยธรรมชาติ” ซึ่งแปลได้ว่าหนูเมาส์ทุกตัวโดยเฉพาะหนูเมาส์ที่มีความทุกข์ทรมานเกินระดับที่กำหนด ต้องถูกการุณยฆาตอย่างถูกต้อง ไม่ปล่อยให้ตายเองตามหลักการ
จุดยุติที่มีมนุษยธรรมช่วยให้สามารถยุติการทดลองก่อนกำหนดได้ โดยการลดความรู้สึกไม่สบาย ความทุกข์ใจ และความเจ็บปวดของสัตว์ให้เหลือน้อยที่สุด ขณะเดียวกันก็มั่นใจว่าได้บรรลุวัตถุประสงค์ทางวิทยาศาสตร์เท่าที่เป็นไปได้ อย่างไรก็ตามความแตกต่างของการทดลอง เพศ และสายพันธุ์เองก็ทำให้ไม่สามารถกำหนดค่าทางชีววิทยาที่เป็นข้อตกลงกลางเพื่อกำหนดจุดยุติการทดลอง ซึ่งโดยทั่วไปแล้วการประเมินทางชีววิทยาของการกำหนดจุดยุติการทดลอง ได้แก่ การลดลงของน้ำหนักตัว การลดลงของอุณหภูมิร่างกาย (Body temperature) คะแนนความเจ็บปวด (Pain scale) ระดับความเจ็บป่วย (Sickness severity score) (Mei et al., 2019) และขนาดของเนื้องอก (Miller et al., 2016; Wallace, 2000)
เอกสารอ้างอิง
Barrot, M. (2012). Tests and models of nociception and pain in rodents. Neuroscience, 211,
39-50.
Christian, L.M., Graham, J.E., Padgett, D.A., Glaser, R., & Kiecolt-Glaser, J.K. (2006). Stress and wound healing. Neuroimmunomodulation, 13(5-6), 337-346.
Mei, J., Banneke, S., Lips, J., Kuffner, M. T. C., Hoffmann, C. J., Dirnagl, U., Endres, M., Harms, C., & Emmrich, J. V. (2019). Refining humane endpoints in mouse models of disease by systematic review and machine learning-based endpoint definition. ALTEX, 36(4), 555–571. https://doi.org/10.14573/altex.1812231
Miller, A., Burson, H., Söling, A., & Roughan, J. (2016). Welfare assessment following
heterotopic or orthotopic inoculation of bladder cancer in C57BL/6 Mice. PloS one, 11(7), e0158390.
Padgett, D.A., Marucha, P.T., & Sheridan, J.F. (1998). Restraint stress slows cutaneous wound healing in mice. Brain, behavior, and immunity, 12(1), 64-73.
Rojas, I.-G., Padgett, D.A., Sheridan, J.F., & Marucha, P.T. (2002). Stress-induced susceptibility to bacterial infection during cutaneous wound healing. Brain, behavior, and immunity, 16(1), 74-84.
Wallace, J. (2000). Humane endpoints and cancer research. ILAR journal, 41(2), 87-93.