โรคปอดอักเสบเป็นโรคติดเชื้อที่พบได้บ่อยและเป็นสาเหตุของภาวะทุพพลภาพและ การเสียชีวิตอันดับต้น ๆ ทั่วโลก โรคปอดอักเสบสามารถแบ่งได้เป็นหลายประเภทและเกิดจาก เชื้อจุลชีพก่อโรคได้หลากหลาย มีวิธีในการวินิจฉัยและการดูแลรักษาที่แตกต่างกัน จัดเป็นความท้าทายของแพทย์ผู้ทำการรักษาผู้ป่วย
ผู้นิพนธ์มีความสนใจเกี่ยวกับโรคปอดอักเสบเป็นพิเศษ โดยได้ศึกษาเพิ่มเติมและ ทำการวิจัยเกี่ยวกับโรคปอดอักเสบและได้ตีพิมพ์งานวิจัยในวารสารระดับชาติและระดับนานาชาติ และมีความตั้งใจในการจัดทำหนังสือเล่มนี้เพื่อรวบรวมองค์ความรู้เกี่ยวกับโรคปอดอักเสบที่พบบ่อยในผู้ใหญ่ โดยรวบรวมข้อมูลจากแนวทางการวินิจฉัยและดูแลรักษาผู้ป่วยโรคปอดอักเสบที่เป็นที่ยอมรับในระดับนานาชาติ งานวิจัยที่ผู้นิพนธ์ทำเอง งานวิจัยภายในประเทศ งานวิจัยของ ต่างประเทศ และประสบการณ์ในการดูแลรักษาผู้ป่วยโรคปอดอักเสบ โดยเนื้อหาในหนังสือประกอบด้วย คำนิยาม ปัจจัยเสี่ยง เชื้อจุลชีพก่อโรค การวินิจฉัยโรค การดูแลรักษา ตลอดจนการป้องกันโรคปอดอักเสบที่พบบ่อยในผู้ใหญ่ หนังสือเล่มนี้เหมาะกับแพทย์เวชปฏิบัติทั่วไป แพทย์ใช้ทุน แพทย์ประจำบ้านสาขาอายุรศาสตร์ แพทย์เฉพาะทางด้านอายุรศาสตร์ รวมถึงแพทย์ผู้สนใจ
เนื้อหาภายในเล่มประกอบไปด้วยเนื้อหา 7 บท ประกอบไปด้วย บทที่ 1 บทนำโรคปอดอักเสบ (Introduction to pneumonia) บทที่ 2 โรคปอดอักเสบชุมชน (Community-acquired pneumonia) บทที่ 3 โรคปอดอักเสบในโรงพยาบาล (Hospital-acquired pneumonia) บทที่ 4 โรคปอดอักเสบที่สัมพันธ์กับเครื่องช่วยหายใจ (Ventilator-associated pneumonia) บทที่ 5 โรคปอดอักเสบในผู้ที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง (Immunocompromised host pneumonia) บทที่ 6 โรคปอดอักเสบจากการสำลัก (Aspiration pneumonia) บทที่ 7 โรคปอดอักเสบจากการติดเชื้อโควิด 19 (COVID-19 pneumonia)

1. บทนำโรคปอดอักเสบ (Introduction to pneumonia)
โรคปอดอักเสบ (pneumonia) คือ การติดเชื้อที่เนื้อปอด (pulmonary parenchyma) เป็นโรคที่พบได้บ่อยและเป็นสาเหตุของการเกิดภาวะทุพพลภาพและการเสียชีวิตอันดับต้น ๆ ทั่วโลก โดยเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับที่ 4 จากรายงานขององค์การอนามัยโลกในปี พ.ศ. 25631 สำหรับข้อมูลในประเทศไทยจากการรายงานของสำนักระบาดวิทยา กระทรวงสาธารณสุข พ.ศ. 2565 พบอัตราป่วยจากปอดอักเสบจำนวน 357.77 ต่อประชากรแสนราย และมีอัตราเสียชีวิต 0.33 ต่อประชากรแสนราย2 โดยพบอัตราป่วยสูงในผู้ที่มีอายุมากกว่าหรือเท่ากับ 60 ปี และอายุน้อยกว่า 4 ปี และพบอัตรา เสียชีวิตสูงในผู้ที่มีอายุมากกว่าหรือเท่ากับ 60 ปี

ดังนั้นโรคปอดอักเสบจึงเป็นโรคที่มีความสำคัญและเป็นปัญหาสาธารณสุขของประเทศไทย และทั่วโลก มีความจำเป็นอย่างยิ่งที่แพทย์ผู้ดูแลรักษาผู้ป่วยควรมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับโรคปอดอักเสบเป็นอย่างดี เพื่อที่จะสามารถให้การวินิจฉัยและให้การรักษาผู้ป่วยได้อย่างรวดเร็วและเหมาะสม เพื่อลดอัตราการเกิดภาวะทุพพลภาพและอัตราการเสียชีวิตของผู้ป่วย
2. โรคปอดอักเสบชุมชน (Community-acquired pneumonia)
โรคปอดอักเสบชุมชน (community-acquired pneumonia, CAP) คือ ปอดอักเสบจากการติดเชื้อจุลชีพนอกโรงพยาบาล เป็นโรคที่พบได้บ่อยในเวชปฏิบัติและทำให้เกิด ภาวะทุพพลภาพ ตลอดจนเป็นสาเหตุของการเสียชีวิตอันดับต้น ๆ ทั่วโลก โดยพบมีผู้เสียชีวิตจาก CAP ประมาณ 2,400,000 รายทั่วโลกใน พ.ศ. 25591 ประเทศสหรัฐอเมริกาพบอุบัติการณ์ ของ CAP ในผู้ใหญ่ประมาณ 16-23 รายต่อประชากร 1,000 รายต่อปี โดยพบอัตราการเสียชีวิตที่ 30 วันประมาณร้อยละ 12 ของผู้ป่วย CAP ที่ต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล2-4 ข้อมูลในประเทศไทยจากรายงานของสำนักระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม ถึงวันที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2562 พบผู้ป่วย CAP จำนวน 115,212 ราย เสียชีวิต 97 ราย คิดเป็นอัตราป่วย 176.1 ต่อประชากร 100,000 ราย5 การวินิจฉัยและการประเมิน ความรุนแรงของโรคที่แม่นยำ รวมถึงการใช้ยาต้านจุลชีพที่รวดเร็วและเหมาะสม จะช่วยลดปัญหาการเกิดเชื้อดื้อยา ลดภาวะแทรกซ้อนจากการให้ยาต้านจุลชีพ ลดภาวะทุพพลภาพ และลดอัตราการเสียชีวิตในผู้ป่วยโรคปอดอักเสบชุมชนได้
3. โรคปอดอักเสบในโรงพยาบาล (Hospital-acquired pneumonia)

โรคปอดอักเสบในโรงพยาบาล (hospital-acquired pneumonia, HAP) เป็นการติดเชื้อในโรงพยาบาล (hospital-acquired infection) ที่พบบ่อยที่สุด คือ พบได้ประมาณร้อยละ 22 ของการติดเชื้อในโรงพยาบาลทั้งหมด1 โดยพบอุบัติการณ์ของ HAP ตั้งแต่ 5-20 รายต่อ 1,000การนอนพักรักษาตัวในโรงพยาบาล และทำให้เพิ่มระยะเวลาการรักษาตัวในโรงพยาบาลเฉลี่ย7-9 วัน2 HAP ทำให้ผลลัพธ์ในการรักษาไม่ดี เพิ่มอัตราการเกิดภาวะทุพพลภาพ อัตราการเสียชีวิตอัตราการเข้ารับการรักษาในหอผู้ป่วยวิกฤต การใช้เครื่องช่วยหายใจ ระยะเวลานอนรักษาตัวในโรงพยาบาล และเพิ่มค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษา3, 4 การวินิจฉัยโรคที่ถูกต้องแม่นยำและการให้ยาต้านจุลชีพที่เหมาะสมจะทำให้ลดอัตราการเกิดภาวะแทรกซ้อนและลดอัตราเสียชีวิตได้
4. โรคปอดอักเสบที่สัมพันธ์กับเครื่องช่วยหายใจ (Ventilator-associated pneumonia)
โรคปอดอักเสบที่สัมพันธ์กับเครื่องช่วยหายใจ (ventilator-associated pneumonia, VAP) คือ ปอดอักเสบจากการติดเชื้อที่เกิดขึ้นในผู้ป่วยหลังจากการใส่ท่อช่วยหายใจเป็นเวลานานกว่า 48 ชั่วโมง เป็นสาเหตุอันดับต้นของการติดเชื้อในหอผู้ป่วยวิกฤตที่ใส่เครื่องช่วยหายใจ1, 2 พบอัตราการเกิด VAP ประมาณร้อยละ 9-27 ของผู้ป่วยที่ใส่ท่อช่วยหายใจ และอัตราการเกิด VAP จะเพิ่มขึ้นตามระยะเวลาการใช้เครื่องช่วยหายใจที่ยาวนานขึ้น3, 4 จากการวิเคราะห์อภิมาน (meta-analysis) พบว่าผู้ป่วย VAP มีอัตราการเสียชีวิตประมาณร้อยละ 135 การเกิด VAP ทำให้เพิ่มระยะเวลาการใช้เครื่องช่วยหายใจประมาณ 7.6-11.5 วัน เพิ่มระยะเวลาการรักษาตัวใน โรงพยาบาลประมาณ 11.5-13.1 วัน และเพิ่มค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลจำนวนมาก6-8 ดังนั้นจึงมีความจำเป็นที่แพทย์ต้องสามารถวินิจฉัยและให้ยาต้านจุลชีพที่รวดเร็วและเหมาะสม ซึ่งจะช่วยลดระยะเวลาการใช้เครื่องช่วยหายใจ ลดปัญหาการเกิดเชื้อดื้อยา ลดภาวะแทรกซ้อนจากการให้ยาต้านจุลชีพ ลดอัตราการเสียชีวิต และลดค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลผู้ป่วยโรคปอดอักเสบที่สัมพันธ์กับเครื่องช่วยหายใจได้
5. โรคปอดอักเสบในผู้ที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง (Immunocompromised host pneumonia)

ในปัจจุบันประเทศไทยและทั่วโลกพบอุบัติการณ์ของโรคปอดอักเสบในผู้ที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง (immunocompromised host pneumonia, ICHP) เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ เนื่องจาก ความก้าวหน้าในการรักษาโรค ทำให้ผู้ป่วยโรคมะเร็งมีชีวิตยาวนานขึ้น มีการรักษาด้วยการปลูกถ่ายเซลล์ต้นกำเนิดเม็ดเลือดหรือการปลูกถ่ายอวัยวะเพิ่มขึ้น มีการใช้ยากดภูมิคุ้มกัน ตลอดจนการรักษาด้วยยาชีววัตถุ การรักษาด้วยภูมิคุ้มกันบำบัดเพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้ผู้ป่วยมีภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่องและเกิดปอดอักเสบได้ง่าย ในประเทศสหรัฐอเมริกาพบภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่องในผู้ใหญ่ประมาณร้อยละ 3 ของประชากรผู้ใหญ่ทั้งหมด และพบว่าร้อยละ 20-30 ต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลด้วยโรคปอดอักเสบ1-3 ปัจจุบันแนวทางการวินิจฉัยและรักษาโรคปอดอักเสบชุมชนของ ATS/IDSA พ.ศ. 25624 ไม่รวมผู้ป่วยที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง เนื่องจากมีความหลากหลายของประเภทและ ความรุนแรงของผู้ป่วยที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง อาการและอาการแสดงของโรคอาจไม่ชัดเจน มีโอกาสติดเชื้อจุลชีพก่อโรคได้หลายชนิด รวมทั้งมีโอกาสติดเชื้อจุลชีพฉวยโอกาส (opportunistic pathogen) เพิ่มมากขึ้น จึงนับว่าเป็นความท้าทายของแพทย์ในการวินิจฉัยและให้การดูแลรักษาผู้ป่วย ICHP การวินิจฉัยโรคและการระบุชนิดของเชื้อจุลชีพก่อโรคที่รวดเร็วและถูกต้อง เพื่อให้ การรักษาที่ตรงชนิดของเชื้อจุลชีพก่อโรค จะช่วยลดภาวะแทรกซ้อนจากการใช้ยาต้านจุลชีพ ลดอัตราทุพพลภาพและอัตราเสียชีวิตของผู้ป่วย
6. โรคปอดอักเสบจากการสำลัก (Aspiration pneumonia)
โรคปอดอักเสบจากการสำลัก (aspiration pneumonia, AP) คือ ปอดอักเสบจาก การติดเชื้อที่เกิดจากการสำลักสิ่งคัดหลั่งจากคอหอยส่วนปาก (oropharynx) หรือจากกระเพาะอาหารซึ่งมีเชื้อจุลชีพลงไปสู่ระบบทางเดินหายใจส่วนล่าง AP เป็นโรคที่พบได้บ่อยโดยเฉพาะอย่างยิ่งในผู้สูงอายุ พบว่าร้อยละ 5-15 ของผู้ป่วยโรคปอดอักเสบชุมชน (CAP) เป็น AP5-7 โดยพบอุบัติการณ์การนอนโรงพยาบาลประมาณ 31 ต่อ 10,000 ราย ในผู้ป่วยที่มีอายุมากกว่า 75 ปี8, 9 และมีอัตราการเสียชีวิตในโรงพยาบาลประมาณร้อยละ 10-1510, 11 โดยมีอัตราเสียชีวิตเพิ่มขึ้นใน ผู้สูงอายุ12 นอกจากนี้พบว่าปอดอักเสบในสถานดูแลผู้สูงอายุสัมพันธ์กับการสำลักร้อยละ 18-3013 ในปัจจุบันการเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุรวมถึงแนวโน้มการเพิ่มขึ้นของสถานดูแลผู้สูงอายุทำให้มีแนวโน้มอุบัติการณ์ของ AP เพิ่มมากขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้ AP เป็นปัญหาทางสาธารณสุขที่สำคัญและ เพิ่มมากขึ้นทั่วโลก

ATS/IDSA จำแนกประเภทของโรคปอดอักเสบตามสถานที่ที่เกิดปอดอักเสบ ได้แก่ โรคปอดอักเสบชุมชน (CAP) โรคปอดอักเสบในโรงพยาบาล (HAP) และโรคปอดอักเสบที่สัมพันธ์กับเครื่องช่วยหายใจ (VAP)14, 15 อย่างไรก็ตาม AP เป็นการจำแนกประเภทของโรคปอดอักเสบ ตามกลไกการเกิดโรค ซึ่งการสำลักสามารถเกิดได้ในทุกสถานที่ ทั้งในผู้ป่วยที่อยู่ในชุมชน ผู้ป่วยที่รักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล และผู้ป่วยที่ได้รับการใส่เครื่องช่วยหายใจ
7. โรคปอดอักเสบจากการติดเชื้อโควิด 19 (COVID-19 pneumonia)
โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (coronavirus disease 2019) หรือโรคโควิด 19 (COVID-19) เป็นโรคติดต่อจากการติดเชื้อไวรัส severe acute respiratory syndrome coronavirus 2 (SARS-CoV-2) พบการแพร่ระบาดครั้งแรกในเดือนธันวาคม พ.ศ. 2562 ในเมืองอู่ฮั่น ประเทศจีน16 และแพร่ระบาดอย่างรวดเร็วไปทั่วโลก โดยองค์การอนามัยโลกประกาศให้โรคโควิด 19 เป็นโรคระบาดใหญ่ทั่วโลก (global pandemic) ในเดือนมีนาคม พ.ศ. 256317 และกลายเป็นปัญหาทางสาธารณสุขร้ายแรงทั่วโลก ในเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2566 พบมีผู้ป่วยโควิด 19 สะสมมากกว่า 770 ล้านรายและมีผู้เสียชีวิตสะสมมากกว่า 6.9 ล้านรายทั่วโลก โดยมีอัตราการเสียชีวิตประมาณร้อยละ 218 สำหรับข้อมูลในประเทศไทยจากการรายงานของ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข เดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2566 พบผู้ป่วยโควิด 19 สะสมมากกว่า 4.7 ล้านราย และมีผู้เสียชีวิตสะสมมากกว่า 3 หมื่นราย19

โรคปอดอักเสบจากการติดเชื้อโควิด 19 (COVID-19 pneumonia) เป็นโรคปอดอักเสบที่เกิดจากการติดเชื้อโควิด 19 โดยผู้ป่วยมักมีอาการไข้ ไอ หอบเหนื่อย มีภาวะออกซิเจนในเลือดต่ำ ผู้ป่วยบางรายอาจมีอาการรุนแรงจนทำให้เกิดภาวะ acute respiratory distress syndrome (ARDS) และทำให้เสียชีวิตได้ การวินิจฉัยที่แม่นยำและรวดเร็ว ตลอดจนการให้การดูแลรักษาโรคที่รวดเร็วและเหมาะสมจะช่วยลดการแพร่กระจายของโรค ลดภาวะทุพพลภาพ และลดอัตรา การเสียชีวิตในผู้ป่วยได้
เอกสารอ้างอิง
- Di Pasquale MF, Sotgiu G, Gramegna A, et al. Prevalence and Etiology of Community-acquired Pneumonia in Immunocompromised Patients. Clin Infect Dis. 2019;68(9):1482-1493.
- Sousa D, Justo I, Domínguez A, et al. Community-acquired pneumonia in immunocompromised older patients: incidence, causative organisms and outcome. Clin Microbiol Infect. 2013;19(2):187-192.
- Jain S, Self WH, Wunderink RG, et al. Community-Acquired Pneumonia Requiring Hospitalization among U.S. Adults. N Engl J Med. 2015;373(5):415-427.
- Metlay JP, Waterer GW, Long AC, Anzueto A, Brozek J, Crothers K, et al. Diagnosis and treatment of adults with community-acquired pneumonia: an official clinical practice guideline of the American Thoracic Society and Infectious Diseases Society of America. Am J Respir Crit Care Med. 2019;200:e45-e67.
- van der Maarel-Wierink CD, Vanobbergen JN, Bronkhorst EM, Schols JM, de Baat C. Risk factors for aspiration pneumonia in frail older people: a systematic literature review. J Am Med Dir Assoc. 2011;12(5):344-354.
- Lanspa MJ, Jones BE, Brown SM, Dean NC. Mortality, morbidity, and disease severity of patients with aspiration pneumonia. J Hosp Med. 2013;8(2):83-90.
- Lindenauer PK, Strait KM, Grady JN, et al. Variation in the Diagnosis of Aspiration Pneumonia and Association with Hospital Pneumonia Outcomes. Ann Am Thorac Soc. 2018;15(5):562-569.
- Wu CP, Chen YW, Wang MJ, Pinelis E. National Trends in Admission for Aspiration Pneumonia in the United States, 2002-2012. Ann Am Thorac Soc. 2017;14(6):874-879.
- Palacios-Ceña D, Hernández-Barrera V, López-de-Andrés A, et al. Time trends in incidence and outcomes of hospitalizations for aspiration pneumonia among elderly people in Spain (2003-2013). Eur J Intern Med. 2017;38:61-67.
- Allewelt M, Schüler P, Bölcskei PL, Mauch H, Lode H; Study Group on Aspiration Pneumonia. Ampicillin + sulbactam vs clindamycin +/- cephalosporin for the treatment of aspiration pneumonia and primary lung abscess. Clin Microbiol Infect. 2004;10(2):163-170.
- Ott SR, Allewelt M, Lorenz J, Reimnitz P, Lode H; German Lung Abscess Study Group. Moxifloxacin vs ampicillin/sulbactam in aspiration pneumonia and primary lung abscess. Infection. 2008;36(1):23-30.
- Pinargote H, Ramos JM, Zurita A, Portilla J. Clinical features and outcomes of aspiration pneumonia and non-aspiration pneumonia in octogenarians and nonagenarians admitted in a General Internal Medicine Unit. Rev Esp Quimioter. 2015;28(6):310-313.
- Mylotte JM. Nursing home-acquired pneumonia. Clin Infect Dis. 2002;35(10): 1205-1211.
- Metlay JP, Waterer GW, Long AC, et al. Diagnosis and Treatment of Adults with Community-acquired Pneumonia. An Official Clinical Practice Guideline of the American Thoracic Society and Infectious Diseases Society of America. Am J Respir Crit Care Med. 2019;200(7):e45-e67.
- American Thoracic Society; Infectious Diseases Society of America. Guidelines for the management of adults with hospital-acquired, ventilator-associated, and healthcare-associated pneumonia. Am J Respir Crit Care Med. 2005;171 (4):388-416.
- Huang C, Wang Y, Li X, et al. Clinical features of patients infected with 2019 novel coronavirus in Wuhan China. Lancet. 2020;395(10223):497–506.
- World Health Organization. WHO Director-General’s opening remarks at the media briefting on COVID19. [Cited 2021 March 19]. Available from: https://www.euro.who.int/en/health-topics/health-emergencies/coronavirus-covid-19/news/news/2020/3/who-announces-covid-19-outbreak-a-pandemic
- World Health Organization. Coronavirus disease (COVID-19) dashboard. https://covid19.who.int. accessed on Nobember 24th, 2023.
- DDC COVID-19 interactive dashboard. https://ddc.moph.go.th/covid19-dashboard/accessed on Nobember 24th, 2023.