
ดังนั้นผู้ประกอบการจึงเริ่มให้ความสำคัญกับกล่องกระดาษลูกฟูกบรรจุสินค้ามากขึ้น เริ่มมีการเปลี่ยนจากกล่องแบบฝาชน หรือเรียกว่ากล่องแบบอาร์เอสซี (Regular Slotted Container, RSC) มาเป็นกล่องดายคัต (Die Cut)ซึ่งสามารถออกแบบได้หลากหลายรูปทรงมากกว่า กล่องกระดาษลูกฟูกจะไม่เป็นแค่กล่องสำหรับขนส่งสินค้าอีกต่อไป แต่กล่องกระดาษลูกฟูกจะเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับตราสินค้า สร้างความเป็นตัวตน และเพิ่มมูลค่าให้กับผลิตภัณฑ์จากการออกแบบที่ดีและมีความแตกต่างจากคู่แข่งขันในท้องตลาด

ทั้งนี้กว่าจะมาเป็นกล่องกระดาษลูกฟูกในปัจจุบันนั้นกระดาษลูกฟูกเริ่มคิดค้นขึ้นครั้งแรกเมื่อทศวรรษที่ 19 จากกลุ่มของแฟชั่นเสื้อผ้า โดยการนำผ้ามาพับเป็นปกคอและปลายแขนเสื้อ จากการพับผ้าไปมาแล้วรีดทับนั้นทำให้เกิดแนวความคิดใหม่โดยใช้เครื่องทำให้เกิดเป็นลอนคลื่นซึ่งมีลูกเหล็กสองลูกที่ทำเป็นลอนประกบกันแล้วหมุน ถือเป็นความคิดใหม่มากในยุคนั้น จากนั้นในปี ค.ศ. 1856 Healey และ Allen ได้ค้นพบการทำกระดาษให้เป็นลอนโดยนำมาใช้กับหมวกทรงสูงทำให้หมวกอยู่ทรงได้ดีและเริ่มใช้กันมากในสังคมอังกฤษยุคนั้น
ต่อมาในปี ค.ศ. 1871 Albert L. Jones ชาวอเมริกัน ได้นำกระดาษที่ทำเป็นลอนมาประยุกต์ใช้ในการห่อหุ้มสินค้า ซึ่งในช่วงแรก ๆ สินค้าที่ถูกห่อหุ้มด้วยกระดาษนั้นเป็นขวดแก้วและชุดตะเกียงน้ำมันก๊าด จนในปี ค.ศ. 1874 ได้มีการจดสิทธิบัตรแนวความคิดใหม่ที่มีการนำกระดาษแผ่นเรียบมาประกบติดกับลอนเพื่อไม่ให้กระดาษที่ขึ้นรูปเป็นลอนยืดตัวออก ทำให้เกิดเป็นกระดาษแบบ 2 ชั้น ขึ้นนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา

หลังจากนั้นในปี ค.ศ. 1881 ได้มีการพัฒนาคิดค้นเครื่องจักรในการผลิตจากกระดาษ1 ชั้น มาเป็น 2 ชั้น ขึ้นเป็นเครื่องแรกของโลก โดยใช้การหมุนจากกระดาษ 1 ชั้น ที่เป็นลอนแล้วมาประกบกับแผ่นเรียบจนเกิดเป็น 2 ชั้น และได้จดสิทธิบัตรในปี ค.ศ. 1895 ตั้งแต่นั้นก็ได้กลายเป็นจุดเริ่มต้นของแผ่นกระดาษลูกฟูก 3 ชั้น และเริ่มทำเป็นกล่องกระดาษลูกฟูกขึ้น(บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด, 2556) โดยกล่องกระดาษลูกฟูกได้รับความนิยมใช้งานเป็นอย่างมาก เนื่องจากมีต้นทุนในการผลิตต่ำ เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม มีน้ำหนักเบา ปกป้องสินค้า และสามารถออกแบบรูปทรงได้หลากหลายตามต้องการ ประโยชน์ส่วนมากของกระดาษลูกฟูก คือ ผลิตเป็นกล่อง โดยในประเทศไทยกว่าร้อยละ 90 ใช้กล่องกระดาษลูกฟูกบรรจุผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมในหลากหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มอาหารสำเร็จรูป อาหารแช่แข็ง ผักผลไม้สด และขนมอบกรอบต่าง ๆ โดยตลาดบรรจุภัณฑ์กระดาษลูกฟูกในประเทศไทยปี พ.ศ. 2561 คาดว่าจะเติบโตขึ้นร้อยละ 4 จากปีก่อนที่มีมูลค่าตลาดอยู่ที่ 1.16 แสนล้านบาท และคาดว่าจะเติบโตอย่างต่อเนื่องทุกปีในระดับเดียวกันอีก 5 ปีข้างหน้า สอดคล้องกับอัตราผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ
